Giro d’Italia เรื่องราวและน้ำตาแห่งชัยชนะ ของการแข่งจักรยาน

หนึ่งในการเกมส์การแข่งขันกีฬาระดับโลก คงไม่มีใครไม่รู้จัก Tour de France ซึ่งถือได้ว่าเป็นมหากาพย์แห่งการแข่งขันจักรยาน แต่ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ก็คือ Giro d’Italia เปรียบได้กับนิยายแอคชั่นฟอร์มยักษ์ที่ผสมทั้ง ความเร็ว ความทรหด และความโรแมนติกของอิตาลี เข้าไว้ด้วยกัน นี่ไม่ใช่แค่การแข่งจักรยานธรรมดาๆ แต่นี่คือ การไล่ล่า “Maglia Rosa” หรือเสื้อสีชมพูอันทรงเกียรติ ที่นักปั่นทั่วโลกต่างใฝ่ฝันจะได้มาครอง

อิตาลีไม่ได้มีดีแค่พิซซ่าและมักกะโรนี

เส้นทางของ Giro d’Italia นั้นไม่ใช่แค่ความคลาสสิคที่งดงาม แต่มันคือ สนามรบของนักปั่น ตลอดระยะเวลาการแข่งขัน 3 สัปดาห์ รวมระยะทางโดยประมาณ 3,000 – 3,500 กิโลเมตร (ปี ค.ศ. 2025 นี้ ระยะทางรวม 3443.3 กิโลเมตร)  นักปั่นต้องฝ่าขุนเขา ทางกรวด และลมแรงจากชายฝั่งทะเล ซึ่งบาง Stage เป็นเส้นทางสุดแสนโรแมนติกที่ผ่านไร่องุ่นและเมืองโบราณอันเงียบสงบ แต่วันรุ่งขึ้นก็ต้องปั่นไต่เขา ด้วยความชันสุดโหด! (รวมทั้งหมด 21 Stage ระดับความชัน 53,250 เมตร)

ความยิ่งใหญ่ของ Giro d’Italia ไม่ได้เป็นแค่การแข่งขันจักรยานที่นักปั่นและผู้ชมทั่วโลกต่างให้ความสนใจ แต่ยังเป็น สัญลักษณ์ความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมอิตาลี เชื่อมโยงเมืองเล็ก เมืองใหญ่ ภูเขา ทะเล และหัวใจของผู้คนเข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้แฟน ๆ นักปั่นทั่วโลกยิ่งเพิ่มความหลงรักกีฬาแห่งความทรหดนี้

Highlight: Mountain Stage

Giro d’Italia ต่างจาก Tour de France ตรงที่โหดร้ายกับนักปั่นมากกว่าเล็กน้อย โดยเฉพาะใน สเตจภูเขา (Mountain Stages) ซึ่งเป็นด่านยาก ถ้าพลาดเพียงครั้งเดียวก็อาจหมายถึงการหลุดจากกลุ่มลุ้นแชมป์ทันที

Maglia Rosa: เสื้อสีชมพูที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตา

ใครจะไปคิดว่าเสื้อสีชมพูตัวหนึ่งจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นที่สุด เสื้อ “Maglia Rosa” มอบให้ “ผู้นำเวลารวม” (General Classification) ที่ไม่ใช่แค่ความเร็ว แต่ต้อง “ครบเครื่อง” ทั้งความแรง ความอึด เทคนิค และกลยุทธ์ ที่ทีมต้องแข็งแกร่ง ประสานกันเป็นอย่างดี และต้องมีโชคดีเล็ก ๆ ด้วย คือ นักแข่งต้องไม่ล้ม และไม่มีอุบัติเหตุ

ไม่ใช่แค่การแข่งจักรยาน…แต่นี่คือตำนาน

Giro d’Italia เรื่องราวและน้ำตาแห่งชัยชนะ และเสียงหัวเราะของทีมที่ร่วมฝัน ทุกโค้ง ทุกเนิน ทุกสเตจ คือนิยายบทใหม่ที่เขียนด้วยหัวใจนักสู้ นักแข่งหลายคนแม้จะไม่ได้ชนะ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ได้จารึกชื่อไว้บนเส้นทางการแข่งขัน Giro d’Italia

การแข่งขันในปี 2025 นี้ ไม่ว่าคุณจะเชียร์ทีมไหนใน 23 ทีม หรือใครจะนักแข่งคนโปรด การได้ติดตามการแข่งขันก็เหมือนการ Live สดที่ไม่มีสคริปต์ ความมันส์มาเต็ม รู้ตัวอีกทีก็เผลอตะโกนเชียร์ตอนนักแข่งคนโปรดเข้าเส้นชัย!

ส่วนใครที่เป็นแฟน Cervélo  ก็ต้องติดตามทีม Visma – Lease a Bike หนึ่งในนักแข่งตัวเต็ง Wout van Aert ที่เพิ่งชนะใน Stage 9 ได้อย่างสุดมันส์ โดยเส้นทางการแข่งใน Stage 9 นี้เรียกว่าครบเครื่อง มีทั้งทางเรียบ ทางฝุ่น และเนินเขา ใครที่ได้ติดตามดู ต่างลุ้นนั่งไม่ติดไปตามๆ กัน