Home
About
Bicycle
Bicycle
VIEW ALL
Accessories
Accessories
VIEW ALL
Promotion
Events
Blog
Dealer
Contact
Search for:
FOLLOW US
Follow Us
BIKEZONE THAILAND
BIKEZONE THAILAND
@BIKEZONETHAILAND
Home
blog-s
7 วิธี ที่จะช่วยให้การปั่นจักรยานของคุณ “นุ่มนวล” และ “สบายตัว” ยิ่งขึ้น
31 / 07 / 2025
7 วิธี ที่จะช่วยให้การปั่นจักรยานของคุณ “นุ่มนวล” และ “สบายตัว” ยิ่งขึ้น
7 วิธี ที่จะช่วยให้การปั่นจักรยานของคุณ “นุ่มนวล” และ “สบายตัว” ยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือเก๋า การทำให้จักรยานปั่นได้อย่างสบาย นุ่มนวล และไม่มีอาการเจ็บปวด คือ หัวใจสำคัญของการปั่นจักรยานที่ดี ที่สนุก และนี่คือ 7 วิธีที่จะช่วยทำให้การปั่นจักรยานของคุณสบายขึ้นอย่างเห็นผล
1. ใช้ยางหน้ากว้างขึ้น
ยางหน้ากว้างช่วยทำให้คุณลดแรงดันลมยางลงได้ ซึ่งแรงดันลมยางส่งผลโดยตรงต่อความนุ่มนวลในการปั่น หน้ายางที่กว้างขึ้นจะซับแรงกระแทก แรงสะเทือนได้ดีกว่าแรงดันลมยางสูงๆ ซึ่งช่วยทำให้คุณปั่นแล้วรู้สึกนุ่มนวลกว่า … ในอดีต นิยมใช้ยางแคบ เช่น 700x23c หรือ 700x20c เพื่อรีดความเร็ว แต่ต้องแลกด้วยความกระด้างสูง
ปัจจุบัน เทรนด์ได้เปลี่ยนไปสู่ยางหน้ากว้าง เช่น 700x29c เป็นขนาดที่โปรนักปั่นนิยมใช้ล่าสุดในรายการแข่ง Tour de France 2025 โดยให้ทั้งความเร็ว ความมั่นคง และความนุ่มนวลในการปั่น
2. ปรับแรงดันลมยางให้เหมาะสม
เมื่อใช้ยางหน้ากว้างขึ้น ควรลดแรงดันลมยางให้เหมาะสมตามน้ำหนักตัวและขนาดยาง เช่น:
น้ำหนักนักปั่น: 75 กก. น้ำหนักจักรยาน 9 กก.
ขนาดยาง 700x23c: เติมล้อหน้า 85 PSI / หลัง 90 PSI
ขนาดยาง 700x29c: เติมล้อหน้า 65 PSI / หลัง 70 PSI
หน้ายางใหญ่ขึ้น – แรงดันลมน้อยลง / ยางหน้าแคบลง – แรงดันลมมากขึ้น
โดยค่าแรงดันลมยางที่เหมาะสม จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น ของยาง ลักษณะของล้อ และสภาพถนนที่ใช้ปั่น
3. เพิ่มความฟิตของร่างกาย
ร่างกายที่ไม่ฟิต ไม่ยืดหยุ่น หรือพักปั่นไปนาน อาจทำให้รู้สึกปั่นไม่สบาย เหนื่อยง่าย หรือปวดเมื่อย การกลับมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การยืดกล้ามเนื้อ และการเสริมความแข็งแรงโดยเฉพาะแกนกลางลำตัว (core) จะช่วยให้กลับมาปั่นได้สนุกและสบายตัวมากขึ้น
4. ปรับท่าทางการปั่นให้ถูกต้อง
บางทีการปั่นจักรยานแล้วรู้สึกปวดเมื่อยร่างกาย อาจมาจากท่าทางการปั่นที่ไม่ถูกต้อง หรือบางครั้งเกิดมาจากการที่รูปร่างเปลี่ยน ท่าปั่นก็เปลี่ยนตามโดยไม่รู้ตัว เช่น อ้วนขึ้น พุงใหญ่ขึ้น มีอาการบาดเจ็บ ก้มไม่ได้ ทำให้มือยันแฮนด์ เหยียดแขน ไว้ตลอด และถ้าแกนกลางลำตัวไม่แข็งแรงพอ ก็จะทำให้หลังแอ่น ปวดคอ บ่า ไหล่ และหลัง ตามมาอีก ถ้าหากคุณปั่นแล้วปวดตัวบ่อยๆ ควรพิจารณาท่าปั่น และปรับจักรยานให้เหมาะสมกับสรีระปัจจุบัน
ภาพจาก geekaybikes.com
5. ใช้เบาะ (อาน) ที่เหมาะกับ Sit Bone
เบาะจักรยานควรสอดคล้องกับ “กระดูกนั่ง” (Sit Bone) ของแต่ละคน เบาะที่แคบเกินไปจะกดจุดสำคัญจนเจ็บหรือชา ส่วนเบาะที่กว้างเกินไปอาจเสียดสีกับต้นขา และเบาะที่เหมาะสมยังขึ้นกับประเภทของการปั่น เช่น จักรยานที่นั่งหลังตรง เช่น City Bike, รถพับ, เสือภูเขา ก็ต้องใช้เบาะที่กว้างกว่าเสือหมอบที่เน้นก้มตัว เบาะที่ถูกต้องกับจักรยานประเภทนั้นๆ จะช่วยให้ปั่นได้สบายขึ้นชัดเจน
ภาพจาก cyclingabout.com
6. ทำ Bike Fitting
Bike Fitting คือการปรับจูนจักรยานให้เหมาะกับสรีระของผู้ปั่นแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นความยาวขา แขน ความยืดหยุ่น หรือจุดถนัดของกล้ามเนื้อซ้าย-ขวา การฟิตติ้งอย่างละเอียดโดยผู้เชี่ยวชาญจะช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บ เพิ่มประสิทธิภาพการปั่น และทำให้คุณรู้สึกสบายขึ้นอย่างมากเมื่ออยู่บนอาน
7. เปลี่ยนอุปกรณ์ หรือจักรยานที่เหมาะสม
จักรยานบางคันอาจไม่เหมาะกับผู้ปั่น แม้ว่าจะใช้ขนาดที่ถูกต้องตามสเปก แต่บางครั้งที่ใช้อุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสม เช่น สเต็มยาวเกินไป แฮนด์เตี้ยเกินไป หรือเฟรมที่มีความแข็งมากจนปั่นแล้วรู้สึกกระด้าง หากปรับจูนแล้วยังไม่สบายตัว อาจถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนอุปกรณ์ หรือเลือกจักรยานใหม่ที่เหมาะกับตัวคุณมากกว่า
สรุปสั้นๆ เข้าใจง่ายๆ
จะทำอย่างไรให้การปั่นจักรยาน “สนุกและสบายตัว”
เริ่มจากการใช้จักรยานที่ใช่ ! ที่เหมาะสมกับร่างกายและสไตล์การปั่นของคุณ แล้วปรับค่อยเรียนรู้การใช้อุปกรณ์ รวมไปถึงการทำให้ร่างกายฟิต แข็งแรงอยู่เสมอ คือปัจจัยที่จะส่งผลให้คุณปั่นจักรยานแล้วรู้สึกสนุก รู้สึกดี จนอยากออกไปปั่นจักรยานทุกๆ วัน
SHARE
PREVIOUS
NEXT
blog-s
09 / 04 / 2024
EVOC Protector Backpacks เป้สำหรับสายลุย
24 / 07 / 2025
การรับประกันของ Cervélo